ยาซีด อัล ราจฮี นักขับซาอุดี สังกัด OVERDRIVE RACING ยังคงเป็นผู้นำบนตารางเวลารวม หลังผ่านการชิงชัยในสเตจที่ 4 ศึกดาการ์ แรลลี่ 2024 ขณะที่ นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ แชมป์เก่า ซิ่งทำเวลาไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ตามหลังหัวขบวนกว่า 11 นาที
สเตจที่ 4 ของ ศึกดาการ์ แรลลี่ 2024 ดวลความเร็วในวันอังคาร ที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ใช้เส้นทางแข่งขันระหว่าง อัล ซาลามิย่า และ อัล-โฮฟุฟ รวมระยะทางทั้งสิ้น 631 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 299 กิโลเมตร และเป็นการเดินทาง 332 กิโลเมตร
การชิงชัยในสเตจดังกล่าวเป็นทางด้าน เซบาสเตียน โล้บ ดาวขับเฟรนช์ สังกัด BAHRAIN RAID XTREME ที่รีดฟอร์มเก่ง ควบ Prodrive Hunter T1+ คว้าแชมป์ไปครอง ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 36 นาที 02 วินาที เร็วกว่า ยาซีด อัล ราจฮี นักขับเจ้าถิ่น สังกัด OVERDRIVE RACING ที่ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 2 อยู่ 1 นาที 08 วินาที
ส่งผลให้ ยาซีด อัล ราจฮี ยังคงเป็นผู้นำบนตารางเวลาต่อไป ด้วยเวลารวม 15 ชั่วโมง 44 นาที 39 วินาที ตามด้วย คาร์ลอส ซายนซ์ จาก TEAM AUDI SPORT ในอันดับ 2 ช้ากว่าหัวขบวน 4 นาที 29 วินาที ด้าน นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ สิงห์ทะเลทรายกาตาร์ แชมป์เก่า ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ตามหลังผู้นำ 11 นาที 03 วินาที
ส่วนในประเภทรถจักรยานยนต์ ผู้นำเปลี่ยนมือเมื่อ โฆเซ่ อิ๊กนาซิโอ คอร์เนโฆ่ ฟลอริโม สังกัด MONSTER ENERGY HONDA TEAM บิดคว้าแชมป์ในสเตจที่ 4 ทำเวลาไต่ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงด้วยเวลารวม 17 ชั่วโมง 27 นาที 13 วินาที เบียด รอสส์ บรานช์ จาก HERO MOTOSPORTS TEAM RALLY ลงไปอยู่อันดับ 2 ช้ากว่าผู้นำ 1 นาที 15 วินาที
รวมถึง มานูเอล อันดูฆาร์ นักขับอาร์เจนไตน์ สังกัด 7240 TEAM / DRAGON RALLY SERVICE ที่ทะยานคว้าแชมป์รถควอด ขยับขึ้นเป็นผู้นำบนตารางเวลา ด้วยเวลารวม 21 ชั่วโมง 51 นาที 48 วินาที ทิ้งห่าง อเล็กซานเดอร์ ชิรูด์ จาก YAMAHA RACING – SMX – DRAG’ON ที่ตามหลังอยู่ถึง 21 นาที 24 วินาที
ขณะที่ ยานุส ฟาน คาสเตเรน, ดาเร็ค โรเดวาลด์ และ มาร์เซล ชไนเดอร์ สังกัด BOSS MACHINERY TEAM DE ROOY FPT ทวงตำแหน่งผู้นำประเภทรถบรรทุกคืนได้อีกครั้ง หลังซิ่งจบสเตจที่ 4 ด้วยเวลารวม 17 ชั่วโมง 45 นาที 17 วินาที เบียด อเลส โลเพรส, ยาโรสลาฟ วัลเตอร์ จูเนียร์ และ ยีรี่ สตรอสส์ สังกัด INSTAFOREX LOPRAIS PRAGA ลงไปรั้งอันดับ 2 ช้ากว่าจ่าฝูง 5 นาที 17 วินาที
สำหรับการชิงชัยในสเตจที่ 5 ใช้เส้นทางแข่งขันระหว่าง อัล-โฮฟุฟ ไปเข้าเส้นชัยที่ ชูเบย์ตาห์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 645 กิโลเมตร เป็นการเดินทาง 527 กิโลเมตร และเป็นช่วงทดสอบพิเศษเพียง 118 กิโลเมตร ดวลความเร็วในวันพุธที่ 10 มกราคม
