ย้อนกลับไปในอดีต หากคุณรู้จักรถยนต์รุ่น CHERY QQ ที่จำหน่ายในประเทศไทยแล้วนั้น คุณไม่เด็กแล้วนะ!! โดยเฉพาะในยุคนั้นชื่อแบรนด์ต้องสะกดแบบนี้ “เฌอรี่” ซึ่งในเวลานั้นอยู่ภายใต้การบริหารงานในฐานะดิสทริบิวเตอร์โดย ไทยยานยนตร์ ของตระกูล ลีนุตพงษ์ ในช่วงปี พ.ศ. 2552
ถึงวันนี้ในปี พ.ศ. 2568 แบรนด์ดังกล่าวได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการกลับมาเปิดตัวแบรนด์ CHERY (เชอรี) อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในรอบ 16 ปี ภายใต้การบริหารงานของบริษัทแม่ประเทศจีน ที่จัดตั้ง บริษัท เชอรี (ประเทศไทย) จำกัด
เพราะเหตุใด? ทำไมบริษัทแม่ถึงตัดสินใจนำแบรนด์ เชอรี กลับมาทำตลาดในประเทศไทย Autolifethailand ได้รวบรวมคำตอบของคำถามดังกล่าวมาไว้ในคอนเทนต์นี้
ต้องบอกว่า เชอรี ไม่ใช่เป็นแบรนด์น้องใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกแต่อย่างใด แต่ชื่อเสียงของแบรนด์ในประเทศจีนได้ครองตำแหน่งอันดับ 1 ผู้ส่งออกรถยนต์นั่งสัญชาติจีน 22 ปีติดต่อกัน และยังมีโรงงานนอกประเทศจีน 16 แห่งทั่วโลก รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) 5 แห่ง ซึ่งส่งออกและทำตลาดใน 120 ประเทศทั่วโลก โดยมีศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) กว่า 3,200 แห่งทั่วโลก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : CHERY Automobile กดปุ่มเริ่มผลิตในไทย Q3/68 ชูเป็นฮับส่งออกเอเชีย
ในปี 2564 ได้เริ่มทำตลาดสำหรับรถยนต์กลุ่มพวงมาลัยขวาโดยเริ่มต้นจาก ประเทศแอฟริกาใต้ และจากนั้นในปี 2565 ได้ขยายตลาดไปยัง ประเทศอินโดนีเซีย และ 2566 ได้ขยายตลาดไปยัง ประเทศออสเตรเลีย, ประเทศมาเลเซีย จนกระทั่งในปี 2567 ได้เปิดตัวลงสู่ตลาด สหราชอาณาจักร, สิงคโปร์, บรูไน รวมถึงในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ OMODA & JAECOO
การกลับมาในครั้งนี้ของ เชอรี ผู้บริหารได้ยืนยันถึงความพร้อมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในทุกด้านทั้ง ในด้านผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีแผนการเปิดตัวในระยะยาวจำนวน 17 รุ่น แบ่งเป็น ปี 2568 จำนวน 4 รุ่น และ ปี 2569 จำนวน 5 รุ่น ส่วนในอนาคตอีก 8 รุ่น ขณะเดียวกัน ยังได้มีแผนการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) จำนวน 30 แห่ง ภายในปีนี้ ซึ่งแยกการบริหารงานในทุกด้านออกจากแบรนด์ OMODA & JAECOO ทั้งในแง่การทำการตลาด, การวางแผนผลิตภัณฑ์ รวมถึง ทีมงานละผู้บริหาร
พร้อมกันนี้ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ยังได้มีการลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้บริหารจากผู้แทนจำหน่ายเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งดีลเลอร์กรุ๊ปรายใหญ่และรายใหม่ที่เข้าร่วมลงนาม
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนการผลิตโดยใช้ฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วง ไตรมาส 3/2568 ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยมีการลงทุนมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ในระยะแรก (เฟส 1) รวมถึงมีแผนการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ”แบรนด์รถไฟฟ้าแห่งชาติของไทย” จะเปิดตัวรถใหม่ 3 ตัวถัง โดย กระทรวงพาณิชย์ / CHERY / KING GEN / สวทช.
สำหรับ เชอรี เจาะกลุ่มลูกค้าซึ่งมุ่งเน้นการดีไซน์ และตั้งเป้าที่จะเป็นอันดับ 1 ของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สัญชาติจีนในประเทศไทย ขณะที่ในกลุ่มรถยนต์ไฮบริด (HEV) คาดหวังว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในระดับสูง ส่วนในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) จะเป็นรถยนต์ที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะในรุ่น CHERY V23
การกลับมาของแบรนด์ เชอรี ในครั้งนี้ ต้องจับตามองเนื่องจากเป็นการกลับมาและเปิดตัวแบรนด์ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันของแบรนด์จีนในประเทศที่ตบเท้าเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยจำนวนหลายสิบแบรนด์ในช่วงเวลาเพียงไม่นาน จากนี้ก็อยู่ที่ การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์, การตั้งราคา รวมถึง การบริการหลังการขาย ที่อาจต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่การกลับมาครั้งนี้นับว่ามีพื้นฐานที่ดีเป็นต้นทุนโดยเฉพาะการตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอีกทั้งความร่วมมือกับรัฐบาลไทย
