รายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) ระบุว่า ผลการดำเนินงานของ บีวายดี (BYD) ทั่วโลก มีผลกำไรรายไตรมาสลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากการรณรงค์ให้ยุติสงครามราคาของรัฐบาลจีน โดยกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 2/2568 ของบริษัทดังกล่าวอยู่ที่ 6,400 ล้านหยวน (ราว 890 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือลดลง 29.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ รายได้รวมของ BYD เพิ่มขึ้น 14% หรืออยู่ที่ 2 แสนล้านหยวน
ทั้งนี้ สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนมีความท้าทายในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลจีนรณรงค์ให้ยุติสงครามราคาจากการแข่งขันที่รุนแรงในประเทศจีน
สำหรับ BYD ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกไว้ที่ 5.5 ล้านคันในปี 2568 แต่ในช่วง 7 เดือนแรกของปีมียอดขายอยู่ที่ 2.49 ล้านคัน หรือคิดเป็น 45% จากเป้าหมายดังกล่าว โดยสัดส่วนกว่า 80% ของแบรนด์ดังกล่าวขายอยู่ในประเทศจีน
ขณะเดียวกัน ในเดือนกรกฎาคม 2568 ปริมาณการผลิตรถยนต์ของ บีวายดี ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน รวมถึงในเดือน มิถุนายน รอยเตอร์ส ได้รายงานว่า บีวายดี ได้มีการชะลอการขยายกำลังการผลิตในโรงงานที่ประเทศจีนออกไปก่อน
อย่างไรก็ตาม บีวายดี ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ร่วมประกาศการชำระเงินให้กับซัพลลายเออร์ภายใน 60 วัน หลังจากที่รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้ผู้ผลิตรถยนต์ชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์เร็วขึ้นและให้มีการยุติสงครามราคา
ที่มา : Reuters