Kia เสริมทัพ Crossover ในพิกัด B-Segment กับ Kia Stonic ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2025 โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปล้วนและขุมพลัง Hybrid พร้อมชูจุดขายติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน ในห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ส่วนมิติตัวถังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ยาว: 4,165 มิลลิเมตร
- กว้าง: 1,760 มิลลิเมตร
- สูง: 1,520 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ: 2,580 มิลลิเมตร
Kia Stonic มาพร้อมกับสองทางเลือกสีตัวถังใหม่อย่าง สีเขียว Adventurous Green และ สีน้ำเงิน Yacht Blue สำหรับโทนการออกแบบนั้น คงเอกลักษณ์ประจำค่ายเอาไว้ทั้งปรัชญาแบบ Opposites United และ ไฟหน้าทรง Star Map Signature Lighting ส่วนด้านท้ายพลิกดีไซน์ใหม่หมด ทั้งไฟท้ายและฝากระโปรงหลัง ผสานกับกันชนดีไซน์สะอาดตา ส่วนล้อมีขนาด 16 และ 17 นิ้ว พร้อมลายพิเศษเฉพาะรุ่นย่อย GT-Line
Kia Stonic พลิกดีไซน์ภายในห้องโดยสารด้วย โดยปรับดีไซน์องค์ประกอบหลักหลายจุดทั้งคอลโซล แดชบอร์ด และ ด้ามเกียร์ใหม่ แผงควบคุมระบบปรับอากาศเปลี่ยนเป็น Multimode Touch Display ซึ่งผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอ infotainment ด้านระบบแสดงผลมีหน้าจอคู่ ขนาดจอละ 12.3 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน ส่วนลูกเล่นอื่นมีทั้งแท่นชาร์จไร้สาย, ช่อง USB-C แบบ Fast Charging และ ไฟ Ambient Lighting
Kia Stonic ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง T-GDI เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ แบบ 3 สูบ ขนาด 998 ซีซี. และมีให้เลือกสองแบบด้วยกัน
- เครื่องยนต์สันดาป กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 11.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 179 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ขุมพลัง Hybrid กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 172 (เกียร์ธรรมดา) / 200 (เกียร์อัตโนมัติ) นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 10.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 182 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Kia Stonic ยังมีแพคเกจระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS หลายรายการ ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งร่วม Segment เช่นกัน ประกอบด้วย
- Blind-spot Collision Avoidance Assist (BCA) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา และหน่วงพวงมาลัย
- Safe Exit Warning (SEW) ระบบแจ้งเตือนว่ามีรถยนต์กำลังวิ่งมา ในฝั่งที่จะมีการเปิดประตู
- Forward Collision-Avoidance Assist 5 (FCA 1.5) ระบบลดความเสี่ยงที่จะชนด้านหน้า พร้อมหน่วงพวงมาลัย
- Navigation-based Smart Cruise Control ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ ทำงานแปรผันตามรถยนต์คันหน้า และระบบนำทาง
- Highway Driving Assist (HDA) ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติบนทางหลวง
- Lane Following Assist (LFA) ระบบรักษาตำแหน่งรถ ให้อยู่กลางเลน
ที่มา: Kia
