นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ ของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยเดือนพฤษภาคม 2568 มียอดขายรวมอยู่ที่ 52,229 คัน เพิ่มขึ้น 4.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันตั้งแต่เดือน เมษายน 2568 จากยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) เพิ่มขึ้น 118% และ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เพิ่มขึ้น 234% รวมถึงรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) เพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ รถกระบะยังคงลดลง 24%
ทั้งนี้ ต้องจับตาปัจจัยที่ส่งผลกระบต่อตลาดได้แก่ความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนที่ยังต่ำรวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงจากนักท่องเที่ยวจีนที่กังวลเรื่องความปลอดภัย กังวลเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่จะไม่ได้ใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ จากปัญหาการเมืองที่ขัดแย้งกันซึ่งจะซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดอยู่แล้วทรุดลงมากขึ้นไปอีก
สำหรับ ยอดขายในกลุ่มรถยนต์นั่งเดือนพฤษภาคมมียอดขายอยู่ที่ 35,560 คัน หรือคิดเป็น 68% ของยอดขายทั้งหมดในเดือนดังกล่าว โดยแบ่งตามประเภทพลังงานมีดังนี้
- รถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อยู่ที่ 13,769 คัน หรือคิดเป็น 26% ของยอดขายทั้งหมด
- รถยนต์นั่งพลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) อยู่ที่ 11,188 คัน หรือคิดเป็น 21% ของยอดขายทั้งหมด
- รถยนต์นั่งพลังงานปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อยู่ที่ 743 คัน หรือคิดเป็น 1.4% ของยอดขายทั้งหมด
- รถยนต์นั่งพลังงานไฮบริด (HEV) อยู่ที่ 9,860 คัน หรือคิดเป็น 18% ของยอดขายทั้งหมด
ส่วนยอดขายในกลุ่มรถกระบะเดือนพฤษภาคมมียอดขายอยู่ที่ 11,148 คัน ลดลง 24% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนดังกล่าวมียอดขายรถกระบะไฟฟ้า (BEV) อยู่ที่ 86 คัน สำหรับ รถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) มียอดขายอยู่ที่ 3,099 คัน เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ ในประเทศไทยสะสม 5 เดือน (มกราคม–พฤษภาคม) ของปี 2568 มียอดขายรวมอยู่ที่ 252,615 คัน ลดลง 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรถยนต์นั่งอยู่ที่ 162,748 คัน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรถกระบะมียอดขายรวมอยู่ที่ 62,467 คัน ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีรถกระบะไฟฟ้า อยู่ที่ 259 คัน
