โตโยต้า ปรับเป้าประมาณการณ์ตลาดรวมรถยนต์ไทยปีนี้เหลือแค่ 8.55 แสนคัน จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 900,000 คัน ส่วนโตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายในปี 2566 อยู่ที่ 291,000 คัน ลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 310,000 คัน จากปัจจัยลบทั้งการเมืองและเศรษฐกิจที่ยังไม่คงที่
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยสถิติการจำหน่ายรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2566 ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรก ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว โดยมีปัจจัยบวกจากแรงหนุนด้านอุปสงค์ของสภาวะเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่เริ่มขยายตัวดีขึ้นในปีนี้ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีทิศทางกระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มมีการฟื้นตัว ส่งผลให้มีความต้องการใช้รถยนต์มากขึ้น ตลอดจนแรงกระตุ้นจูงใจผู้บริโภคด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ พร้อมแคมเปญการขายเชิงรุกของบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์โดยรวมในช่วงหลังนี้ อันเป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภาวะสินเชื่อตึงตัว และความผันผวนทางเศรษฐกิจในช่วงของการเลือกตั้ง ซึ่งก่อให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อทั้งจากภาคธุรกิจและภาคประชาชน ที่ต่างเฝ้ารอความชัดเจนในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายตลาดรวมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 406,131 คัน ลดลง 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สถิติการขายรถยนต์ในประเทศ
ม.ค. – มิ.ย. 2566 |
ยอดขายปี 2566 | เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2565 |
ปริมาณการขายรวม | 406,131 คัน | -5.0 % |
รถยนต์นั่ง | 148,087 คัน | +9.0 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 258,044 คัน | -11.4 % |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 182,952 คัน | -19.7 % |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 149,685 คัน | -24.5 % |
“สำหรับผลการดำเนินงานของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มียอดขายโดยรวมอยู่ที่ 136,859 คัน ลดลง 3.6% ยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 33.7% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความนิยมและยอดขายรถยนต์โตโยต้าในตลาดรถยนต์นั่งที่เติบโตขึ้นถึง 31.2% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถอีโคคาร์ที่ยังคงสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์นั้นก็ยังสามารถรักษาระดับยอดขายได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าสถานการณ์โดยรวมของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีแรกนี้จะเกิดการชะลอตัวลงก็ตาม”
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า
ม.ค. – มิ.ย. 2566 |
ยอดขายปี 2566 | เปลี่ยนแปลง
เทียบกับปี 2565 |
ส่วนแบ่งตลาด |
ปริมาณการขายรวม | 136,859 คัน | -3.6 % | 33.7 % |
รถยนต์นั่ง | 51,041 คัน | +31.2 % | 34.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 85,818 คัน | -16.8 % | 33.3 % |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 70,544 คัน | -20.9 % | 38.6 % |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 58,782 คัน | -22.4 % | 39.3 % |
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2566 มร.ยามาชิตะคาดการณ์ว่า “ด้วยเหตุปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ทำให้การบริโภคของภาคเอกชนและภาคบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลดลง การสนับสนุนการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนในโครงการต่าง ๆ ตลอดจนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และแคมเปญส่งเสริมการขายจากค่ายรถต่าง ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง จะส่งผลต่อทิศทางของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์โดยรวม เชื่อว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะยังคงฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2566 จะอยู่ที่ 855,000 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2566 | ยอดขาย
ประมาณการปี 2566 |
เปลี่ยนแปลง
เทียบกับปี 2565 |
ปริมาณการขายรวม | 855,000 คัน | +0.7 % |
รถยนต์นั่ง | 316,900 คัน | +19.6 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 538,100 คัน | -7.9 % |
มร.ยามาชิตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับโตโยต้า เรามีเป้าหมายการขายในปี 2566 อยู่ที่ 291,000 คัน เพิ่มขึ้น 0.8 % จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 34%”
ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2566 | ยอดขาย
ประมาณการปี 2566 |
เปลี่ยนแปลง
เทียบกับปี 2565 |
ส่วนแบ่งตลาด |
ปริมาณการขายรวม | 291,000 คัน | +0.8 % | 34.0 % |
รถยนต์นั่ง | 104,800 คัน | +26.7 % | 33.1 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 186,200 คัน | – 9.6 % | 34.6 % |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 153,014 คัน | -13 % | 39.7 % |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 125,000 คัน | -15.6 % | 40.0 % |
สำหรับปริมาณการส่งออกของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทฯ ได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 190,491 คัน เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 325,231 คัน เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีที่แล้ว
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
และการผลิตของโตโยต้า ม.ค. – มิ.ย. ปี 2566 |
ปริมาณปี 2566 | เปลี่ยนแปลง
เทียบกับปี 2565 |
ปริมาณการส่งออก | 190,491 คัน | +10.0% |
ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ | 325,231 คัน | +5.3% |
ทั้งนี้ สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ ประมาณ 380,000 คัน เทียบเท่าปีที่แล้ว โดยเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2566 อยู่ที่ระดับ 643,500 คัน หรือลดลง 2.4% จากปีที่แล้วซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการขายของทั้งในประเทศและส่งออก
เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
และการผลิตของโตโยต้าปี 2566 |
ปริมาณปี 2566 | เปลี่ยนแปลง
เทียบกับปี 2565 |
ปริมาณการส่งออก | 380,000 คัน | +0 % |
ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ | 643,500 คัน | -2.4 % |