บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย โดย นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงกรณีตำรวจภูธรภาค 2 จังหวัดชลบุรี ได้แถลง การจับกุมกลุ่มคนร้ายหลอกซื้อรถยนต์เอ็มจีรวม 16 คัน จากผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี และสามารถติดตามรถยนต์จำนวนดังกล่าวกลับคืนมาได้ครบ โดยเป็นการประสานงานและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เอ็มจี สำนักงานใหญ่ และผู้จำหน่าย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้คดีนี้คลี่คลายได้อย่างรวดเร็วเกิดจากการที่รถยนต์เอ็มจีได้มีการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่จะแสดงข้อมูลตำแหน่งของรถยนต์ รวมทั้งมีฟังก์ชั่น Find My Car ที่สามารถแสดงเส้นทางในการไปถึงตัวรถ อีกทั้งยังสามารถกดเลือกให้รถส่งเสียงสัญญาณแตรและไฟส่องสว่างเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสังเกตเห็นรถได้ง่ายว่าจอดอยู่สถานที่บริเวณใด จึงทำให้สามารถค้นหารถได้อย่างทันท่วงที
“ทางเอ็มจี ต้องขอขอบคุณตำรวจภูธรภาค 2 จังหวัดชลบุรี และตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างสูง ที่ระดมกำลังและให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่รวมทั้งใช้งานเทคโนโลยีอัจฉริยะของเราเข้ามาสนับสนุนเพื่อติดตามรถยนต์จำนวนดังกล่าวกลับมาได้อย่างทันท่วงที เหตุการณ์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ‘เทคโนโลยี’ เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งต่อตัวผู้ใช้งาน และกับตัวรถ ไม่ใช่แค่ติดตั้งมาเพื่อความสะดวกสบายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังให้ความมั่นใจ เสริมความปลอดภัย และยังเป็นการป้องกันภัยที่อาจไม่คาดฝันด้วยความอัจฉริยะของเทคโนโลยีได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือ มาตรฐานของเอ็มจี ที่ให้กับลูกค้า และเรามองว่า เทคโนโลยีเช่นนี้ ควรจะมีเป็นระบบมาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ในประเทศไทย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
สำหรับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART คือ ระบบปฏิบัติการที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่ติดตั้งในรถยนต์เอ็มจี ด้วยจุดเด่นของการเป็น in-car connectivity ที่เชื่อมโยงรถและผู้ใช้งาน สามารถนำเสนอ infotainment ต่างๆ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการใช้งานรถยนต์เอ็มจี ไม่ว่าจะสั่งเปิด-ปิดแอร์ล่วงหน้า รองรับการสั่งการในระหว่างการใช้รถด้วยคำสั่งภาษาไทย นอกจากนี้ยังมอบความมั่นใจนการใช้งานรถตลอดจนความปลอดภัย กับทั้งผู้ใช้รถและตัวรถเอง ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี โดยครอบคลุมการใช้งานใน 3 แกนหลัก คือ
- SMART COMMAND – สั่งการทุกฟังก์ชันอย่างแม่นยำ
ระบบ i-SMART รองรับการสั่งการควบคุมการทำงานในรถยนต์เอ็มจีด้วยเสียงภาษาไทย ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย เพียงแค่พูด “ฮัลโหล เอ็มจี” (Hello MG) เพื่อเริ่มต้นสั่งการระบบต่างๆ อาทิ โทรออก ค้นหาจุดสนใจ เปิด-ปิดหรือเปลี่ยนเพลง ควบคุมระบบปรับอากาศ รวมไปถึงเปิด-ปิดซันรูฟ และหน้าต่างฝั่งคนขับ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอภายในรถ อาทิ โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีนในกรณีฉุกเฉินซึ่งโทรฟรีได้ 50 นาทีต่อเดือน ใช้ระบบ i – CALL ติดต่อ MG CALL CENTRE เพื่อสอบถามข้อมูลและขอรับจุดสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG i-SMART Application เพื่อสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดเครื่องปรับอากาศ
นอกจากนี้ ยังพร้อมฟังก์ชั่น Emergency Call ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เมื่อถุงลมนิรภัยในรถทำงาน ด้วยการโทรและส่งข้อความ ระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ได้มีการตั้งค่าไว้ เพิ่มโอกาสการได้รับความช่วยเหลือในเวลาฉุกเฉิน
- SMART CONNECT เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ให้สนุกได้ไม่รู้จบ
ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์เข้ากับการใช้งานรถยนต์เอ็มจีผ่านระบบ i-SMART ทั้งฟังเพลงฮิตจากทั่วโลกได้มากกว่า 1 ล้านเพลงผ่านระบบไลฟ์สตรีมจาก TRUE Online Music ค้นหาร้านอาหารยอดนิยมหรือที่พักระหว่างเดินทางผ่าน FOOD & TRAVEL GUIDE หรือค้นหาเส้นทางผ่าน Smart Navigation ซึ่งแสดงผลการจราจรแบบเรียลไทม์ และยังสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานแอพพลิเคชันต่างๆ ได้ ผ่านเทคโนโลยี MG LINK สำหรับระบบแอนดรอยด์ และเชื่อมต่อผ่าน Apple CarPlay สำหรับระบบ iOS
- SMART CHECK – ขับขี่ปลอดภัยเมื่อความมั่นใจอยู่ในมือ
ระบบ i-SMART มาพร้อมฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คการทำงานของรถยนต์เอ็มจีได้ง่ายๆ เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความผิดปกติและแจ้งสถานะการทำงานของรถ (Remote vehicle diagnosis) อาทิ เครื่องยนต์ ลมยาง ระบบเบรกถุงลมนิรภัย และสถานะประตู หรือใช้คำสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู (Remote vehicle control) อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถพร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ และสามารถกำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า-ออกในขอบเขตที่กำหนดไว้ รวมถึงการค้นหารถโดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่าด้วยฟังก์ชั่น Find my Car
โดยจุดเด่นของระบบ“i-SMART” นอกจากจะมาพร้อมความอัจฉริยะด้านการสั่งการ หรือ SMART Command ด้านการเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect และด้านการตรวจเช็ครถหรือ SMART Check แล้ว ยังสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ให้มีความทันสมัยได้ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์ ครอบคลุมทั้งในด้านประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ พร้อมการติดตั้งคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับความบันเทิงภายในรถยนต์ ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ทำให้สามารถยกระกับประสบการณ์การขับขี่ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ในรถยนต์สมาร์ทคาร์ผ่านระบบออนไลน์ หรือ FOTA หรือ Firmware Over-The-Air ที่ทำให้ลูกค้าสามารถอัพเกรดระบบ i-SMART ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่นั้นจะแตกต่างกันไปในรถยนต์แต่ละรุ่น