นิสสัน ประกาศขยายเวลาการพักสายการผลิตชั่วคราวในประเทศไทยจนถึงวันที่ 31 พฤกษภาคม นี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19 และภาพรวมของตลาดยานยนต์ที่มีความต้องการลดลง
ที่ผ่านมา นิสสัน ได้ประกาศหยุดการผลิตชั่วคราวไปแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ เป็นการประกาศขยายเวลาพักสายการผลิตเป็นครั้งที่2 โดยการพักสายการผลิตนี้ จะพักการผลิตในโรงงานที่ 2 ที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับแผนการผลิตของโรงงานที่ 1 ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน รวมถึงโรงงานประกอบเครื่องยนต์ และโรงงานผลิตชิ้นส่วน และในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายการผลิตเพื่อให้การปฏิบัติงานของพนักงาน รวมถึงการปกป้องดูแลสุขภาพของพนักงาน ลูกค้า รวมถึงชุมชนเป็นไปตามคำแนะนำและมาตรการจากภาครัฐและกระทรวงสาธารณสุข
“บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมทุกอย่างเพื่อดำเนินธุรกิจเมื่อกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตามความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน และครอบครัว ตลอดจนสังคม ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสถาณการณ์การระบาดของไวรัส โควิด-19” ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว
ที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้พนักงานส่วนสำนักงานทำงานจากที่บ้านเพื่อควบคุมการระบาดและผลกระทบจากไวรัส ทั้งนี้นิสสันมีจำนวนรถยนต์ในสต็อกเพียงพอกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย และศูนย์บริการนิสสัน ทั่วประเทศยังคงเปิดทำการเพื่อมอบการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า อีกทั้งยังมีมาตรการดูแลสภาพแวดล้อมภายในศูนย์บริการให้สะอาดและปลอดจากเชื้อ เพื่อปกป้องสุขภาพและสุขภาวะของพนักงานและลูกค้าทุกท่าน
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ “Care For You แทนความห่วงใยจากนิสสัน” เพื่อช่วยเหลือและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
มาตรการเพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้านิสสันปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ ภายใต้โครงการ “Care For You แทนความห่วงใยจากนิสสัน” ได้แก่ ทางเลือกใหม่ในการทดลองขับ บริการตรวจเช็คระยะนอกสถานที่และบริการรับรถที่บ้านลูกค้า รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการนิสสัน ทั่วประเทศ
โดยนิสสันยังได้ดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ศูนย์บริการนิสสัน ทั่วประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการดูแลความสะอาดภายในศูนย์บริการ โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อทำความสะอาดทุก ๆ 30 นาที ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานผู้ปฏิบัติงานและลูกค้าที่เข้ารับบริการทุกคน พนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน การติดตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือสำหรับให้บริการลูกค้าอย่างเพียงพอ รวมไปถึงใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดรถยนต์บริเวณจุดสัมผัส เช่น พวงมาลัย เกียร์ เบาะ ที่จับประตู และคอนโซลหน้า เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
