การเลือกซื้อ และ การติดตั้งยางรถยนต์ให้ถูกต้อง สำคัญแค่ไหน ? ผมเชื่อว่าใครหลายๆคน มองว่าการเลือกซื้อ และ การติดตั้งยางรถยนต์ให้ถูกต้องนั้นมีความสำคัญอย่างแน่นอน แต่ในทาง “ปฏิบัติ” ใครหลายๆคนก็มักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะความไม่เข้าใจ ความประมาท รวมถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เรารู้กันอยู่แล้วว่า ยางรถยนต์เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และ ความนุ่มนวลของการขับขี่ ดังนั้นการเลือกซื้อ และ ติดตั้งยางที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยางอีกด้วย
โดยในบทความนี้ จะอธิบายถึงวิธีเลือกซื้อ และ ติดตั้งยาง อย่างถูกต้อง พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาง BRIDGESTONE TURANZA 6 ซึ่งเป็นยางรุ่นที่ได้รับความนิยม ในกลุ่มยางเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย และ ประหยัดพลังงานอีกด้วย
ทีนี้เรามาดูถึงวิธีการเลือกซื้อยางรถยนต์ที่ถูกต้องกันครับ ว่าควรทำอย่างไร
อย่างแรกที่เราต้องทำคือการดู
- ขนาดของยาง
เราต้องตรวจสอบขนาดยาง ให้ตรงตามคู่มือรถ เช่น 205/55 R16 ซึ่งบ่งบอกถึงความกว้างหน้ายาง อัตราส่วนแก้มยาง และ เส้นผ่านศูนย์กลางล้อ
ตัวเลขหน้ายาง ที่ทางเรายกตัวอย่างมาในครั้งนี้ จะบอกถึงคุณสมบัติ และ ขนาดของยาง โดยตัวเลขแต่ละส่วน มีความหมายดังนี้ :
- ตัวเลขชุดแรก 205 : หมายถึง ความกว้างของหน้ายาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ในที่นี้หมายถึงหน้ายางกว้าง 205 มิลลิเมตร
- ตัวเลขชุดที่สอง 55 : หมายถึง อัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างของหน้ายาง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ในที่นี้คือ 55% ของความกว้าง 205 มม. หรือประมาณ 112.75 มม.
- ตัวหนังสือ R : หมายถึง ประเภทของโครงสร้างยาง ในกรณีนี้คือ Radial ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบเรเดียลที่นิยมใช้ในยางรถยนต์
- ตัวเลขชุดสุดท้าย 16 : หมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางของกระทะล้อ ที่ยางใช้ประกอบเข้าด้วยได้ มีหน่วยเป็นนิ้ว ดังนั้นยางนี้จะใช้กับล้อ ขนาด 16 นิ้ว
ซึ่งขนาดของยาง ควรตรงกับขนาดเดิมที่ติดตั้งมากับรถ หรือขนาดที่ระบุในคู่มือรถยนต์ การใช้ขนาดยางที่ไม่ตรงอาจส่งผลต่อการควบคุมรถ และ ความปลอดภัยขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามการเพิ่มขนาดหน้ากว้างของยาง บางครั้งก็ส่งผลต่อการเกาะถนนที่ดีขึ้น รวมไปถึงส่งผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
- ขนาดของยาง
เราต้องตรวจสอบขนาดยาง ให้ตรงตามคู่มือรถ เช่น 205/55 R16 ซึ่งบ่งบอกถึงความกว้างหน้ายาง อัตราส่วนแก้มยาง และ เส้นผ่านศูนย์กลางล้อ
ตัวเลขหน้ายาง ที่ทางเรายกตัวอย่างมาในครั้งนี้ จะบอกถึงคุณสมบัติ และ ขนาดของยาง โดยตัวเลขแต่ละส่วน มีความหมายดังนี้ :
- ตัวเลขชุดแรก 205 : หมายถึง ความกว้างของหน้ายาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ในที่นี้หมายถึงหน้ายางกว้าง 205 มิลลิเมตร
- ตัวเลขชุดที่สอง 55 : หมายถึง อัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างของหน้ายาง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ในที่นี้คือ 55% ของความกว้าง 205 มม. หรือประมาณ 112.75 มม.
- ตัวหนังสือ R : หมายถึง ประเภทของโครงสร้างยาง ในกรณีนี้คือ Radial ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบเรเดียลที่นิยมใช้ในยางรถยนต์
- ตัวเลขชุดสุดท้าย 16 : หมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางของกระทะล้อ ที่ยางใช้ประกอบเข้าด้วยได้ มีหน่วยเป็นนิ้ว ดังนั้นยางนี้จะใช้กับล้อ ขนาด 16 นิ้ว
ซึ่งขนาดของยาง ควรตรงกับขนาดเดิมที่ติดตั้งมากับรถ หรือขนาดที่ระบุในคู่มือรถยนต์ การใช้ขนาดยางที่ไม่ตรงอาจส่งผลต่อการควบคุมรถ และ ความปลอดภัยขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามการเพิ่มขนาดหน้ากว้างของยาง บางครั้งก็ส่งผลต่อการเกาะถนนที่ดีขึ้น รวมไปถึงส่งผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
คราวนี้เพื่อนก็ทราบกันแล้วนะครับว่าตัวเลขที่บริเวณแก้มยางนั้นมีความหมายอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไร
อย่างที่สองที่เราต้องดูคือ
- ประเภทของยาง ซึ่งปัจจุบันนี้ประเภทของยางจะถูกแบ่งออกเป็นกว้างๆ 4 แบบด้วยกันคือ
- All-season: ใช้ได้ทุกฤดูกาล
- Wet Tires: เหมาะกับสภาพถนนเปียก
- Performance: เน้นความเร็ว และ สมรรถนะสูง
- Off-road: เหมาะกับสภาพถนนขรุขระ
เราต้องเลือกประเภทของยางให้เหมาะสมกับรถ และเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของเราด้วยนะครับ ยางมีหลากหลายประเภท เช่น ยางสำหรับฤดูร้อน ยางสำหรับทุกฤดูกาล หรือยางสำหรับการขับขี่สมบุกสมบัน เลือกประเภทที่เหมาะกับสภาพถนนและการใช้งานประจำวันของคุณ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และยังสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแต่ละครั้ง
อย่างต่อไปที่ต้องนำมาพิจารณาในการเปลี่ยนยางใหม่คือ
- ดัชนีความเร็ว และดัชนีการรับน้ำหนัก
การเลือกยางให้เหมาะสมกับการใช้งานและรองรับน้ำหนักรถ จะทำให้การขับขี่ปลอดภัย โดยสามารถยึดอิงตามหลักเกณฑ์การเลือกใช้ยางที่ถูกต้องได้จากหลักการต่อไปนี้
ดัชนีความเร็ว (Speed Rating) และ ดัชนีการรับน้ำหนัก (Load Index) เป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ระบุความสามารถในการรับแรงดัน และความเร็วที่ยางรถยนต์สามารถทนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะแสดงอยู่บนยางรถยนต์ และมีความสำคัญในการเลือกยางที่เหมาะสมกับรถ และการใช้งาน
ดัชนีความเร็ว (Speed Rating)
ดัชนีความเร็วคืออัตราสูงสุดที่ยางสามารถหมุนได้อย่างปลอดภัยเมื่อบรรทุกน้ำหนักเต็ม โดยจะแสดงเป็นตัวอักษรตั้งแต่ L (120 กม./ชม.) จนถึง Y (300 กม./ชม.) หรือมากกว่า ซึ่งยางที่มีดัชนีความเร็วสูงเหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ส่วนยางที่มีดัชนีต่ำจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป
ตัวอย่าง:
- S = ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
- T = ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
- H = ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
- V = ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม.
ดังนั้นเราต้องรู้ด้วยว่ารถของเรานั้น “แรง” ขนาดไหน หรือ “ธรรมดา” ทั่วไป ก็ต้องเลือกยางวที่เหมาะสมกับความแรงของรถด้วย ไม่ใช่รถแรง แต่กลับใช้ยางที่เหมาะกับความเร็วต่ำ เพราะต้องการประหยัด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก ในทางกลับกัน รถเราไม่ได้แรง แต่กลับเลือกติดตั้งยางสำหรับรถความเร็วสูง เพราะความสวยของลายดอกยาง ก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
ขณะที่ดัชนีการรับน้ำหนัก (Load Index) ก็มีความสำคัญเช่นกัน
โดยดัชนีการรับน้ำหนักคือค่าที่ระบุว่ายางสามารถรับน้ำหนักได้เท่าไหร่ต่อเส้นเมื่อมีลมยางตามมาตรฐาน โดยมีค่าตั้งแต่ 20 (80 กก.) ถึง 120 (1400 กก.) ยางที่มีค่าดัชนีการรับน้ำหนักสูงจะเหมาะสำหรับรถบรรทุกหนักหรือรถที่ใช้ขับขี่ทางไกล
ตัวอย่าง:
- ดัชนี 91 = รับน้ำหนักได้ 615 กก./เส้น
- ดัชนี 95 = รับน้ำหนักได้ 690 กก./เส้น
- ดัชนี 100 = รับน้ำหนักได้ 800 กก./เส้น
เมื่อเป็นเช่นนั้นการใช้งานในชีวิตจริง
หากคุณต้องการเลือกยางให้เหมาะกับรถ คุณควรเลือกยางที่มีดัชนีความเร็วและดัชนีการรับน้ำหนักที่เท่ากับหรือสูงกว่ายางเดิมที่ติดมากับรถ ซึ่งจะช่วยให้ยางทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยางและสามารถรองรับน้ำหนักและความเร็วที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ เรายังต้องดู วันผลิตของยางอีกด้วย ด้วยการตรวจสอบวันที่ผลิตจากรหัสบนแก้มยาง เช่น
“ 2423 ” หมายถึงผลิตในสัปดาห์ที่ 24 ของปี 2023 แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องวันผลิตของยางนั้น ไม่ได้เป็นสาระสำคัญมากนัก เพราะยางเก่าไม่ได้มีคุณสมบัติที่ด้อยไปกว่ายางที่ผลิตใหม่แต่อย่างใด
เมื่อเราสามารถ ”เลือก“ ยางได้ถูกต้องตามการใช้งาน และประเภทของรถเราแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องให้ความสำคัญคือ
การติดตั้งยางรถยนต์ที่ถูกต้อง โดย
- ตรวจสอบขนาดและประเภทของยาง
ติดตั้งยางที่มีขนาดตรงตามคู่มือเพื่อป้องกันปัญหาการทรงตัว
- การหมุนทิศทางของดอกยาง
ตรวจสอบทิศทางการติดตั้งของยาง เช่น ยางที่มีดอกยางกำหนดทิศทางควรติดตามลูกศรที่กำหนด
- ถ่วงล้อและตั้งศูนย์ล้อ
ควรถ่วงล้อเพื่อให้ล้อหมุนได้สมดุลและตั้งศูนย์ล้อเพื่อป้องกันการเบี่ยงของรถ
- การตรวจสอบความดันลมและความเรียบร้อย
เติมลมยางตามมาตรฐานและตรวจดูว่ายางไม่มีรอยรั่วหรือสิ่งแปลกปลอม
ซึ่งในเรื่องของการติดตั้งยางนั้น เราจำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ศูนย์ติดตั้งเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะมีเครื่องมือ และช่างผู้เชี่ยวชาญรับผิดชอบ เราเพียงแค่เลือก ”ร้านยาง“ ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น ซึ่งการติดตั้งยางที่ถูกวิธี และการตรวจสอบสมดุลของล้ออย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ ลดแรงสั่นสะเทือนขณะขับ และช่วยให้การควบคุมรถมีความแม่นยำมากขึ้น
และหากคุณกำลังมองหายางที่ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและเงียบสบาย พร้อมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดีในทุกสภาพอากาศ BRIDGESTONE TURANZA 6 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี
BRIDGESTONE TURANZA 6 เป็นยางสมรรถนะสูงที่เหมาะกับการขับขี่แบบทัวร์ริ่ง และการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้า จุดเด่นของยางรุ่นนี้ประกอบด้วย:
- ประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนเปียก:
จากการทดสอบพบว่ายาง BRIDGESTONE TURANZA 6 มีความสามารถในการยึดเกาะบนถนนเปียกและป้องกันการเหินน้ำได้อย่างดี
- การประหยัดพลังงานและลดแรงต้านทานการหมุน:
ด้วยเทคโนโลยี ENLITEN ทำให้ยางมีน้ำหนักเบา ลดการใช้วัตถุดิบและลดการปล่อย CO2 ทำให้เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
- ความทนทานและเสียงรบกวนต่ำ:
จากโครงสร้างของยางช่วยลดเสียงรบกวน และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเงียบ และความสะดวกสบายในการเดินทางไกล
- เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
- จากการทดสอบพบว่า BRIDGESTONE TURANZA 6 มีจุดเด่นหลัก คือความนุ่ม สบายในการขับขี่
และนี่คือความสำคัญของการเลือกซื้อและติดตั้งยางที่ถูกต้อง
การเลือกซื้อและติดตั้งยางที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัย และราบรื่น นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง และเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน ด้วยเหตุนี้ การลงทุนในยางคุณภาพดีและติดตั้งอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
สำหรับผู้ที่มองหายางคุณภาพสูงที่ให้การขับขี่นุ่มเงียบและปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ เราขอแนะนำ BRIDGESTONE TURANZA 6 ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งในด้านความสบายและความมั่นใจในการขับขี่ พร้อมประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมและลดเสียงรบกวน ช่วยให้การเดินทางทุกครั้งเป็นประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาง BRIDGESTONE TURANZA 6 หรือสอบถามเกี่ยวกับขนาดและรุ่นที่เหมาะสมกับรถของคุณ ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย BRIDGESTONE ทั่วประเทศ หรือเว็บไซต์ https://www.bridgestone.co.th/th/tire/turanza-6
#BridgestoneThailand #BridgestoneTuranza6 #TURANZA6 #TheNewComfortBenchmark #มาตรฐานใหม่แห่งความนุ่มสบายเหนือระดับ